จำนำที่ดิน ในภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความผันผวน หลายคนอาจประสบปัญหาทางการเงินที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน และหนึ่งในทางเลือกที่มีความนิยมอย่างมากในประเทศไทยคือ “การจำนำที่ดิน” เพราะที่ดินถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงและเป็นหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากกว่าสินทรัพย์รูปแบบอื่น การจำนำที่ดินจึงกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เจ้าของทรัพย์สามารถเปลี่ยนทรัพย์เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องขายขาด และยังสามารถเรียกคืนสิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินคืนได้เมื่อชำระหนี้ครบถ้วน
จำนำที่ดิน คืออะไร เข้าใจง่าย ปลอดภัย ได้เงินไว
การจำนำที่ดินตามกฎหมายไทยคือการนำเอาโฉนดที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลไปใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ โดยที่เจ้าของยังคงถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่ เพียงแต่ต้องยินยอมให้มีการนำโฉนดไปจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดินในฐานะทรัพย์ประกันการกู้ยืม ซึ่งผู้ให้กู้มักจะเป็นบุคคลทั่วไป สถาบันการเงิน หรือบริษัทที่รับทำสินเชื่อ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการเงินทุนแต่ไม่สามารถขอกู้จากธนาคารได้เพราะติดเครดิตบูโร หรือไม่มีรายได้ประจำในระบบ ก็สามารถใช้ที่ดินที่มีอยู่เป็นทางออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จำนำที่ดิน ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินได้เลยทันที
จุดเด่นของการจำนำที่ดินคือขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน หากเอกสารครบถ้วนและที่ดินไม่มีภาระผูกพัน ก็สามารถขออนุมัติวงเงินและรับเงินได้ภายในไม่กี่วัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วนเพื่อนำไปใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าเทอมลูก ค่ารักษาพยาบาล หรือขยายกิจการ โดยเจ้าของที่ดินจะไม่ต้องขายทรัพย์ออกไปแต่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างสภาพคล่องในชีวิตประจำวันได้
จำนำที่ดิน จำนำที่ รับฉโนดทุกประเภท
วงเงินที่สามารถจำนำที่ดินได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของที่ดิน สถานที่ตั้ง สภาพการใช้ประโยชน์ของที่ดิน และราคาประเมินจากกรมที่ดิน หรือจากบริษัทประเมินทรัพย์สินที่เป็นกลาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วงเงินที่ได้จะอยู่ระหว่าง 40-80% ของราคาประเมิน แต่ในบางกรณีที่ดินอยู่ในทำเลทอง มีศักยภาพทางธุรกิจสูง หรือมีผังเมืองรองรับ ก็อาจได้รับวงเงินที่มากกว่า ทั้งนี้ผู้จำนำควรตรวจสอบรายละเอียดและข้อตกลงให้ครบถ้วนก่อนลงนามในสัญญา
สรุป
สุดท้าย การจำนำที่ดินไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหากผู้กู้ศึกษาและเตรียมตัวมาอย่างดี พร้อมทั้งเลือกใช้บริการจากผู้ให้กู้ที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ และมีความโปร่งใสในเงื่อนไขต่าง ๆ เพราะที่ดินคือทรัพย์สินที่มีค่า และควรถูกใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เป็นช่องทางที่ทำให้สูญเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็น
